แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิเคราะห์บอล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิเคราะห์บอล แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

ไม่เข้าทีแจ๊ดกว่าพ่าย!

แย่ยิ่งกว่าจำนน!


ฟุตบอล


วิเคราะห์บอล: ด้วยว่าความพ่ายปราชัย ใช่ไหม การต้องตกรอบตารางบอลในการแข่งขันกีฬานั้น ถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดพร้อมทั้งน่าผิดหวังเสมอเพราะทุกคนที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับถ้าจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านั้น ก็คงเป็นการจำนนเพราะว่าที่ทุกคนเบ้ปากใส่แล้วกราบทูลว่าสมควรแล้ว

พร้อมกับสถานการณ์ของ ฝ่ายเชลซี หลังจบจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ คณะปารีส แซงต์-แชร์กแมง คราวคืนวันพุธ น่าจักใกล้เคียงกับที่จั่วหัวเอาไว้

เพราะว่านอกจากจักตกรอบไปอย่างชอกช้ำ จากการทำได้แค่ผลบอลเสมอ 2-2 ในบ้านตัวเอง หลังที่มีผู้เล่นมากกว่าถึงสองในสามของเวลาที่เตะกันแล้ว

เหล่าสิงโตสีคราม ยังถูกวิจารณ์ อย่างหนักจากการแสดงออกของนักเตะในสนาม ในจังหวะการฟาวล์ต่อออสการ์ที่ทำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวเตะคนสำคัญของคู่แข่ง โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

กับแน่นอนว่าการตัดสินของ บียอร์น คีเปอร์ส กรรมการชาวดัตช์ ที่คิดว่าจังหวะนี้ควรเป็นใบแดง ถือเป็นวิจารณญาณของเขาเองด้วยที่โดนจวกหนักไม่แพ้กัน แต่หลายคนก็มองว่าการแสดงออกของนักเตะ คณะเชลซี ที่เข้าไปห้อมล้อมกับโหวกเหวกโวยวายเกินจำเป็นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย


วิเคราะห์บอล


ซึ่งบรรดาเกจิในแวดวงลูกหนัง ทั้งอดีตนักเตะกับผู้จัดการคณะชื่อดังหลายคน ต่างก็มองไปในทางเดียวกันว่ากองหน้าของ คณะเปแอสเชโชคร้ายที่โดนใบแดง พร้อมกับพฤติกรรมของนักเตะ หมู่เชลซี เป็นสิ่งที่น่าอัปยศอดสู

โดยที่ อลัน กรีน คอมเมนเตเตอร์ของ BBC วิเคราะห์ผลบอลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า มันแย่มากที่ได้เห็นนักเตะมากมายหลายคนแสดงพฤติกรรมแบบนั้นในสนาม ผมจะไม่ปกป้องพวกไร้สมองที่ทำตัวน่าขายหน้าแบบนี้แน่

ซึ่ง แกรม ซูเนสส์ อดีตนักเตะพร้อมกับผู้จัดการทีมชื่อดัง ได้ออกมา วิจารณ์ออสการ์ที่เจตนาเรียกใบแดงให้คู่แข่งในจังหวะที่โดนทำฟาวล์ด้วย

เรียกได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องทำเลย มันรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง การที่นักเตะพยายามล้มเพื่อให้คู่แข่งโดนไล่ออก

กับมันไม่ใช่วิถีของอังกฤษ มันกำลังคืบคลานเข้าสู่เกมของเรา ซึ่งผมรู้สึกว่ารับไม่ได้แท้จริงๆ

พร้อมด้วยแม้เวลามีใครเข้าสกัดคุณ คุณมักจะกระหายล้มลงไปเพื่อให้เขาโดนเล่นงาน มันน่าสมเพชแบบนี้แหละ ขอบคุณสวรรค์ที่เปแอสเชไม่ยอมพ่ายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากลับไปพร้อมกับเครดิตที่สมควรได้รับ พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า

ทางด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ทีมลิเวอร์พูล ได้วิจารณ์ไปถึงโจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการกลุ่มเชลซี ว่าเป็นคนปลูกฝังทัศนคติแบบนี้ให้กับนักเตะ


โปรแกรมบอล


ซึ่งการแสดงออกของนักเตะ กลุ่มเชลซีเป็นเรื่องที่น่าอดสู มันมาจากทุกฝ่ายของโจเซ่ มูรินโญ่ กรุ๊ปของเขามักจักทำพฤติกรรมแบบนี้เสมอ มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว

พร้อมกับในบางทีสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนเกมว่าเปแอสเชเป็นหมู่ที่เล่นสกปรกที่สุด อาจจักถูกฝังไว้ในหัวของกรรมการไปแล้ว

ส่วนตัว ผมคิดเสมอว่าฝ่ายของมูรินโญ่อาจจักได้รับการยอมรับในฝีเท้า แต่ฝ่ายของเขาจะไม่มีทางเป็นฝ่ายที่คนรัก เพราะสถานการณ์แบบนี้นี่แหละ ฝ่ายของเขาเอาคำว่าชนะไปอยู่ตรงจุดที่กลุ่มอื่นหรือไม่ก็ผู้จัดการคณะคนอื่นทำไม่ได้ คำพูดของเขามีอิทธิพลไปแล้ว

ในขณะที่ ไมเคิล โอเว่น อดีตดาวยิงชื่อดัง ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน พร้อมทั้งมองว่าจังหวะนี้ไม่ควรเป็นใบแดง

ถ้าหากเป็นจังหวะนี้ ต้องไม่ใช่ใบแดงแน่นอน พฤติกรรมของนักเตะเชลซีน่าช็อกสุดๆ การทำอะไรแบบนี้มีอิทธิพลต่อเกมได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำ

เพราะว่าที่ผมดีใจที่เห็นคาร์ราเกอร์พร้อมกับซูเนสส์คิดตรงกับผมเป๊ะ เกมฟุตบอลคงกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย ถ้านักเตะโหมโรงมีอิทธิพลต่อเกมด้วยการเข้าไปกดดันกรรมการ

กับมาร์ค ลอว์เรนสัน ที่เป็นอดีตกองหลัง เหล่าลิเวอร์พูล ซึ่งผันตัวไปทำงานด้านสื่อมานาน ก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของนักเตะ ฝ่ายเชลซีเช่นกัน

สำหรับการแสดงออกของนักเตะ กรุ๊ปเชลซีนั้นเหเลื่องเชื่อมาก ถ้าดูจากการที่การทำฟาวล์จังหวะนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดนั้นเลย ผมเกือบจะคิดว่าเขาทำคู่แข่งขาหักซะอีก ออสการ์สมควรได้รับออสการ์เลย

พร้อมทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นฉุดให้เกมฟุตบอลถอยหลังเข้าคลอง พฤติกรรมโอเวอร์เกินเหตุต่อการทำฟาวล์ของคู่แข่ง เกมฟุตบอลกำลังจักกลายเป็นละครเข้าไปทุกทีแล้ว

A ในส่วนของ เกรแฮม โพลล์ อดีตผู้ตัดสินชื่อดังของอังกฤษ ก็มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นให้คำมั่นณอันตรายของเกมฟุตบอล


พรีเมียร์ลีก


ซึ่งพฤติกรรมของนักเตะ กรุ๊ปเชลซี ตอนที่เข้าไปรุมล้อม บียอร์น คีเปอร์ส เป็นความอัปยศอย่างแท้จริงๆ กับมันเป็นข้อผูกพันณที่เอิ้นว่าเกมฟุตบอลในปัจจุบันกลายเป็นแบบไหนไปแล้ว

ส่วนทางด้าน จอห์น อัลดริดจ์ อดีตศูนย์หน้า กลุ่มลิเวอร์พูล อีกคน ออกมาตำหนิวิธีการเล่นของมูรินโญ่ที่ไม่เน้นเกมบุกมากพอ

กรุ๊ปเชลซีได้ในสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว วิธีการเล่นของพวกเขาสะท้อนตัวตนผู้จัดการหมู่ของพวกเขาออกมา การเล่นเกมรับในบ้านน้อยครั้งที่จะเวิร์ก

ด้วยกัน โลร็องต์ บล็องก์ โค้ชของ ฝ่ายปารีส ย้ำว่าฝ่ายของเขาสมควรได้ข้ามเข้ารอบ 8 กรุ๊ปสุดท้ายอย่างแท้สุทธิ ไม่ว่าจักมีเหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้นในเกมนี้หรือไม่ไม่ก็ตาม

ซึ่งต่อให้คุณตัดการแสดงออกอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬาพวกนั้นออกไปจากเกม ผมก็คิดว่ากรุ๊ปของผมดีกว่าเชลซีในทุกจุดของสนาม เปแอสเชสมควรเข้ารอบแล้ว

ในขณะที่อิราฮิโมวิชเองได้เหน็บแนมพฤติกรรมของคู่แข่งเบาๆ ว่าทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

หลังจากที่ผมเห็นกรรมการควักใบแดงออกมา ผมนี่แบบว่า เขารู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุดนะ ที่แย่ที่สุดก็คือในจังหวะนั้น นักเตะ กรุ๊ปเชลซี ทุกคนกรูกันเข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด ผมรู้สึกเหมือนโดนเหล่าเด็กน้อยมากลุ้มรุมอยู่รอบตัวเลย

เรื่องโดย : Bebybear

ที่มา: http://event.sanook.com/football

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

การต่อสู้ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมเลเวอร์คูเซ่น เจอ ทีมแอตเลติโก มาดริด

วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น vs แอตเลติโก มาดริด




  • วิเคราะห์บอล ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 พวก นัดแรก 
  • หมู่เลเวอร์คูเซ่น vs เหล่าแอตเลติโก มาดริด 
  • แข่งวัน พุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 
  • แข่งเวลา: 02.45 นาฬิกา 
  • แข่งที่สนาม: ไบอารีนา 
  • กรรมการผู้ตัดสิน: พาเวล คราโลเว็ค ประเทศเช็ก 
  • ด้านสภาพอากาศ: 3 องศา, มีฝนเล็กน้อย 
  • ช่องที่ถ่ายทอดสด: TrueSport 3, TrueSport HD, TrueSport HD3


เกี่ยวกับผลการพบกัน 2 นัดหลังสุด

  1. วันที่ 16/12/10 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เลเวอร์คูเซ่น 1 - 1 แอต.มาดริด
  2. วันที่ 30/09/09 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แอต.มาดริด 1 - 1 เลเวอร์คูเซ่น



ผลงาน 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม

คณะเลเวอร์คูเซ่น

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล เสมอ เอาก์สบวร์ก 2 - 2 นัดเยือน
  2. วันที่ 14/2/15 ผลบอล ปราชัย โวล์ฟสบวร์ก 4-5 นัดเหย้า
  3. วันที่ 8/2/15   ผลบอล พ่ายแพ้ เบรเมน 1-2 นัดเยือน
  4. วันที่ 4/2/15   ผลบอล ชนะ แฮร์ธ่า 1-0 นัดเยือน
  5. วันที่ 31/1/15 ผลบอล เสมอ ดอร์ทมุนด์ 0-0 นัดเหย้า


ทีมแอต.มาดริด

  1. วันที่ 21/2/15 ผลบอล ชนะ อัลเมเรีย 3-0 นัดเหย้า
  2. วันที่ 15/2/15 ผลบอล แพ้ เซลต้า 0-2 นัดเยือน
  3. วันที่ 7/2/15   ผลบอล ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 นัดเหย้า
  4. วันที่ 31/1/15 ผลบอล ชนะ เออิบาร์ 3-1 นัดเยือน
  5. วันที่ 28/1/15 ผลบอล พ่ายแพ้ บาร์เซโลน่า 2-3 นัดเหย้า



เช็กความพร้อม-สภาพคณะ


คณะเลเวอร์คูเซ่น

  • ในส่วนของโอเมอร์ ท็อปรัค ติดโทษแบน 
  • ส่วนทางด้าน ทิน เยดไว ยังต้องรอลุ้นฟิต 
  • ส่วน คิริอากอส ปาปาโดปูลอส กับ เอเมียร์ สปาฮิช คงยืนเซ็นเตอร์คู่กัน 
  • ด้าน จูลิโอ โดนาติ นั้นต้องลุ้นว่าจักเบียดลงยืนแบ็กขวาได้หรือไม่ 
  • ด้วยว่าสเตฟาน ไรนาร์ทซ์ พร้อมเป็นตัวเฟุ้งเฟื่องกในแดนกลางแล้ว 
  • แต่ว่า ลาร์ส เบนเดอร์ อาจยังไม่ฟิตพอ 
  • พร้อมทั้งโยซิป เดอร์มิช คงจะยืนศูนย์หน้า

ระเบียนนักเตะโดนแบน: โทเมอร์ ท็อปรัค


เหล่าแอต.มาดริด

  • ด้วยโกเก้ ยังไม่หายเจ็บกลับมาเสริมแดนกลาง 
  • ส่วนอาร์ด้า ตูราน อาจชวดบู๊ด้วย ถ้าฟิตไม่ทันจากการบาดเจ็บระหว่างซ้อม 
  • แต่ว่า ติอาโก้ น่าจักพร้อมเป็นตัวเระบือกได้ หลังกลับมาลงเล่นในสองนัดหลังสุดแล้ว 
  • ทางด้านของเฟร์นานโด ตอร์เรส คงต้องรอโอกาสในฐานะตัวสำรองไปก่อน 
  • เพราะว่าว่า อองตวน กรีซม็อง กับ มาริโอ มันด์ซูคิช คงจะยืนคู่กันในแนวรุก



มาวิเคราะห์รูปเกม

โดยรวมแล้วทั้งสองคณะฟอร์มแกว่งไปแยะ พวกเลวอร์ฯ คงต้องเปิดเกมบุกเพื่อชิงความได้เปรียบไว้ก่อนกับการเล่นในบ้าน ก็เพราะว่าไปเยือน กรุ๊ปแอต มาดริดนัดหน้าคงเป็นงานที่หนักขึ้นอีกเยอะแยะ เกมนี้ห้างขายยาต้องเน้นต่อบอลเข้าทำให้แน่นอน เพราะว่าตราหมีดูฉาบฉวยพร้อมทั้งวูบวาบกว่า แต่ด้วยวินัยของเจ้าถิ่น เกมนี้มีลุ้นแน่ด้วยกันคงไม่พลาดท่าง่ายๆ


ทะเบียนผู้เล่น 11 คนแรกที่คาด

พวกเลเวอร์คูเซ่น 4 - 2 - 3 - 1:

  • 1.แบรนด์ เลโน
  • 27.กอนซาโล่ คาสโตร 
  • 14.คิริอากอส ปาปาโดปูลอส 
  • 5.เอเมียร์ สปาฮิช 
  • 18.เวนเดลล์
  • 6.ไซม่อน โรลเฟส 
  • 3.สเตฟาน ไรนาร์ทซ์
  • 38.คาริม เบลลาราบี้ 
  • 10.ฮาคาน คัลฮาโนกลู 
  • 7.ซอนเฮืองมิน
  • 9.โยซิป เดอร์มิช
โค้ชกลุ่ม: โรเจอร์ ชมิดท์


เหล่าแอต.มาดริด 4 - 4 - 2:

  • 1.มิเกล โมย่า
  • 20.ฆวนฟราน 
  • 23.มิรันด้า 
  • 2.ดิเอโก้ โกดิน 
  • 3.กีเลอร์เม่ ซีเกร่า
  • 8.ราอูล การ์เซีย 
  • 14.กาบี้ 
  • 5.ติอาโก้ 
  • 17.ซอล นีเกซ
  • 7.อองตวน กรีซม็อง
  • 9.มาริโอ มันด์ซูคิช

โค้ชฝ่าย: ดิเอโก้ ซิเมโอเน่


ผลฟุตบอลฮอตสกอร์: พวกเลเวอร์คูเซ่น ชนะ 2-3 แอต มาดริด

เพราะเกร็ดที่น่าสนใจ

  • ข้อแรก กลุ่มเลเวอร์คูเซ่นไม่ชนะเลยใน 3 นัดหลังสุด เสมอ 1 แพ้ 2 พร้อมด้วยชนะแค่ 2 จาก 10 เกมหลังเท่านั้น ชนะ 2 เสมอ 5 จำนน 3
  • ข้อที่สอง พวกแอตมาดริด เสมอแค่ครั้งเดียวจาก 13 นัดหลังสุด ชนะ 8 เสมอ 1 จำนน 4 พร้อมกับไม่เสมอเลยใน 8 เกมหลัง
ที่มา: http://sport.sanook.com/134997/

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข่าวคราวโปรแกรมบอล: ร่วมข้อมูลกีฬาแห่งลีกต่างๆรวมทั้งการแลกเปลี่ยนนักเตะรอบเนื้อที่ 2

สมาคมเอฟเอตั้งข้อหา ฟาน กัล




หลังจากที่หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์เระบือดดัตช์วัย 63 ปี ผู้จัดการ พวกผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เหรอ เอฟเอ ตั้งข้อหา หลังจากที่ให้สัมภาษณ์ตำหนิกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดแรก ที่บุกไปเสมอ คณะเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1

โดยภายหลังจบเกมเอฟเอ คัพ 2014 - 2015 รอบ 4 นัดแรก ที่ หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ คณะเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 1 - 1 และ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือผีแดงออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่พอใจหลายๆ อย่างในการแข่งขันที่ดูจะไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งได้ตำหนิในการทำหน้าที่ของ คริส ฟอย ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว

พร้อมทั้งล่าสุด หลุยส์ ฟาน กัล ไม่รอด ครั้งเอฟเอนั้นได้ออกมาตั้งข้อถ้าหากับนายใหญ่ประจำถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มีเวลาให้ยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ข้อกล่าวหาถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ก่อน 18.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น เหรอ 01.00 นาฬิกา ของวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเรา


หนุ่มลีกดิวิชั่น 8 ซบฝ่ายพาเลซหลังซัดแฮตทริค 6 นาที




เพราะที่ เคชี่ แอนเดอร์สัน หัวหอกดาวรุ่งของสโมสร กลุ่มบาร์ตัน โรเวอร์ส หมู่จากเซาเทิร์น ลีก ดิวิชั่น วัน เซนทรัล หรือไม่ ลีกอังกฤษ ดิวิชั่น 8 ชีวิตเหมือนฝันราวดั่งนิยาย หลังกลายมาเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีก ตามฝันได้สำเร็จ เพราะเจ้าตัวเคลื่อนซบ กรุ๊ปคริสตัล พาเลซ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนตลาดซื้อ - ขายปิดลงปางวันจันทร์ที่เปลี่ยนมา หลังซัดแฮตทริคใส่ กรุ๊ปพาเลซ เพราะใช้เวลาเหมือน 6 นาที

พร้อมกับกองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี ยังได้โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมซัดไป 19 ประตู จาก 19 เกม ก่อนมาประลองฝีเท้ากับ เบรนท์ฟอร์ด คณะในเดอะแชมเปี้ยนชิพ ขณะอาทิตย์ที่ทะลวงมา กับได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง กลุ่มคริสตัล พาเลซ เพราะเจ้าตัวลงมาเป็นตัวสำรองในนาที 65 แต่ใช้เวลาห่างกันเช่นแค่ 6 นาที ก็ทำได้ถล่มแฮตทริคได้ ทำให้ อลัน พาร์ดิว รีบดึงมาร่วมพวกอย่างรวดเร็ว

เพราะได้มีรายงานอีกว่า เคชี่ แอนเดอร์สัน รับทรัพย์จากการเซ็นสบถสาบาน 30000 ปอนด์ จากเดิมรับค่าเหนื่อยกับ บาร์ตัน แค่ 200 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น




ตัวเลนน่อน กราบทูลปัด คณะสโต๊คเเลื่องกไป คณะเอฟเวอร์ตัน แบบขอยืมตัว




ภายหลังที่ หมู่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน นั้นได้ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว อาร่อน เลนน่อน ปีกวัย 27 ปีชาวอังกฤษของ พวกไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเสริมทัพเป็นที่เรียบร้อย ก่อนตลาดรอบ 2 จักปิดตัวลง ในแบบคำมั่นกู้ยืมตัวจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้ ปล่อยให้ พวกสโต๊ค ซิตี้ ซดแห้วไปตามระเบียบ

ซึ่งอาร่อน เลนน่อน ปีกตัวจี๊ดของ พวกไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปฎิเสธที่จะไม่ร่วม พวกช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ แต่เเอิกเกริกกซบตัก เหล่าทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แทน ทั้งนี้อยู่ภายใต้สบถสาบานยืมตัวใช้งานจนจบฤดูกาล 2014 - 2015

พร้อมทั้งสาเหตุการยักย้ายถ่ายเททีมของ เลนน่อน เป็นที่ทราบกันดีว่าภายใต้การควบคุมเหล่าของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ของถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าไหร่ในซีซั่นนี้ ซึ่งได้ลงเล่นในลีกไปเช่น 9 นัดเท่านั้น กับกลายเป็นตัวเลือเลื่องกรองจาก 1.นาเซอร์ ชาดลี่ พร้อมกับ 2.อันดรอส ทาวน์เซนด์

เพราะที่เลนน่อน วัย 27 ปีลงเล่นให้กับทัพ คณะไก่เดือยทอง มาตั้งแต่ปี 2005 รวมแล้วถึงในเวลานี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 267 นัด พร้อมกับทำไปได้ 26 ประตู

ซวยแน่นอนๆ! ตากล้องตกงานหลังถ่าย เลนน่อน หน้าบูด




ภายหลังที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ที่เป็นกุนซือ ฝ่ายฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เกิดอาการเหวี่ยงช่างภาพสโมสรที่ถ่าย อารอน เลนน่อน ปีกความเร็วสูงคนใหม่ ออกมาหน้าตาบูดบึ้งตลอดการโหมโรงมาร่วมทัพภายใต้ข้อผูกพันขอยืมตัวจาก พวกสเปอร์ส

เพราะว่าที่หลายต่อหลายรูปที่ปรากฎออกสื่อนั้น มาจากฝีมือของ ปีเตอร์ ไบร์น ที่เป็นคนถ่ายภาพ แต่ปรากฏว่าหน้าตาของ เลนน่อน แทบจักทุกภาพนั้น ดูจะไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่ต้องโยกย้ายมาร่วมทัพ หมู่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน





ซึ่งมาร์ติเนซ ได้กล่าวว่า แน่แท้ๆแล้ว เขาแฮปปี้มากๆเลยนะที่มาเล่นกับเรา ช่างภาพห่วยมากที่ทำให้ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขา ที่จักต้องทำให้นายแบบยิ้มสวยๆ

พร้อมกับสภาพร่างกายเขาฟิตเปรี๊ยะ พร้อมกับพร้อมเป็นส่วนสำคัญของเหล่าของเราด้วยเกมสุดอาทิตย์นี้ด้วย

เขาพูดว่า เราดีใจมากๆ พร้อมทั้งรู้ว่าปัจจุบันนี้มีหลายต่อหลายคน กำลังพูดถึงเรื่องภาพถ่ายเหล่านั้น ผมจักให้ฝ่ายหาช่างภาพคนใหม่ เพราะว่าผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน




กรุ๊ปบาร์ซ่าเตรียมเปลี่ยนชื่อสนามเป็น กาตาร์ แอร์เวย์ส




กลุ่มบาร์เซโลน่า นั้นเตรียมเปลี่ยนชื่อสนาม คัมป์ นู หลังทีมต้องทำตามข้อตกลงของผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่าง กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่

ซึ่งสนาม คัมป์ นู ชื่อนี้อาจไม่มีอีกถัด หลังมีรายงานว่า เหล่าบาร์เซโลน่า ที่เป็นเหล่ายักษ์ใหญ่ลา ลีกา สเปน เตรียมเปลี่ยนชื่อสนามใหม่ ในขณะที่ฝ่ายกำลังพยายามเจรจาทำให้คำมั่นฉบับใหม่กับ กาตาร์ แอร์เวย์ส สายการบินยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลาง

ทีมบาร์เซโลน่า ยอดหมู่แห่งศึก ลา ลีกา สเปนกำลังจะหมดข้อผูกพันกับสายการบินอาหรับ เพราะว่าจักทำให้คณะได้เงินสนุบสนุนคณะมากถึง 25 ล้านปอนด์ต่อปีในปี 2016 ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกำลังพยายามโปรแกรมบอลขยายหนังสือสัญญาใหม่อยู่

เพราะที่ อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ที่เป็น ซีอีโอของกาตาร์เผยว่ามีโอกาสที่จักใช้ชื่อของบริษัทเป็นชื่อสนามความจุ 99000 ที่นั่ง ในการเป็นชื่อใหม่ของรังเหย้าของ หมู่บาร์ซ่า

พร้อมด้วยก่อนหน้านี้ ทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมลีกก็มีแผนเปลี่ยนชื่อสนามตามสปอนเซอร์ของกรุ๊ปเช่นกัน จาก สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็น สนามดิ อาบู ดาบี เบร์นาเบว นั่นเอง

ที่มา: http://footballclubpza.blogspot.com/

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

ผลบอล: ทันทีที่เจอร์ราร์ด เข้ากับงานพิจารณาใจ ที่ผลัดกันชีวิต

เมื่อเจอร์ราร์ด กับการตกลงใจ ที่เปลี่ยนชีวิต




วิเคราะห์บอลคงพูดไม่ผิดนักสมมติจักรายงานว่า ภาพของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ในชุดเสื้อสีอื่นที่นอกเหนือจากสีแดงเพลิงของกลุ่มลิเวอร์พูล นั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจินตนาการของเหล่า Kopites ทั้งปวง

ซึ่งหมู่มวลค็อปชนนั้นไม่เคยคิดมาก่อนแม้สักเวลานาทีว่ากัปตันคณะยอดดวงใจของพวกเขานั้นจักจากสโมสรแห่งนี้ไปอยู่กับพวกใดอีก โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้

แต่ว่าสิ่งที่ทุกคน เชื่อ นั้นคือเจอร์ราร์ด จักอยู่กับ ฝ่ายลิเวอร์พูล สโมสรเดียวตลอดไปจนเลิกเล่นฟุตบอล มีสถานะเป็น One-man-club เป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่รับใช้สโมสรไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายในเกมลูกหนัง

แต่ว่าน่าเสียดายด้วยกันน่าเสียใจที่สิ่งเหล่านั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น ขณะสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เตรียมประกาศการปลงใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต

ที่ว่าเขาคงต้องไปจาก ถิ่นแอนฟิลด์แล้วหลังจบฤดูกาลนี้

ซึ่งความแน่แท้แล้วเจอร์ราร์ด เคยมีโอกาสที่จะไปจาก กรุ๊ปฟุตบอลลิเวอร์พูล มาก่อนครับ พร้อมด้วยเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงมากด้วยอย่างน้อยถึง 2 ครั้งด้วยกัน




ในครั้งแรกในช่วงหลังจบฤดูกาล 2003 - 2004
ด้วยกัน.oอีกครั้ง  ซึ่งใกล้เคียงยิ่งกว่าในช่วงหลังจบฤดูกาล 2004 - 2005 โดยทั้งสองครั้งเป็น เหล่าเชลซี ที่พยายามจักเจรจาเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมคณะให้ได้ พร้อมกับครั้งหลังนั้นเจอร์ราร์ด ตอบตกลงด้วยวาจาไปแล้ว

แต่ว่าในคืนสุดท้ายหลังทบทวนตัวเองอย่างดี เสียงของหัวใจทูลกับเขาว่า แม้การไปอยู่ กรุ๊ปเชลซีจักทำให้เขามีโอกาสประสบความสำเร็จมากมาย แต่จะไม่มีเสื้อสีไหนนอกจากสีแดงของลิเวอร์พูล สนามใดนอกเหนือจากแอนฟิลด์ พร้อมด้วยแฟนบอลกลุ่มไหนนอกเหนือจากเหล่า หมู่เดอะ ค็อป ที่เขาต้องการรับใช้

ตัวของเจอร์ราร์ด จึงไม่ได้เป็นปางกัปตันกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่

แต่ว่าเขายังเป็นผู้รับใช้สโมสรที่จงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่งด้วย





รวมทั้งโอกาสของความสำเร็จ กับเงินตราไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิต เพราะว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการทำให้ได้คือการนำ ทีมลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งการจักทำให้ได้เช่นนั้น นั่นหมายถึงการ เสียสละ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

แต่ว่าในขณะที่ซูเปอร์สตาร์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส พร้อมกับหลุยส์ ซัวเรซ เร่ำลือกที่จะทิ้งสโมสรอย่างหมู่ลิเวอร์พูลไปก็เพราะว่ารู้ถึง ศักยภาพ ของยักษ์หลับในอดีตว่าเป็นเรื่องยากที่จะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

ดังนั้นเจอร์ราร์ด ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่กล้าปิดประตูสโมสรอย่าง เหล่าบาเยิร์น มิวนิค กับ กลุ่มเรอัล มาดริด เพื่ออยู่ที่แอนฟิลด์หลังจากนั้น

ก็ไม่มีใครรู้ครับว่าน้ำหนักของ ความรับผิดชอบ ที่เจอร์ราร์ด แบกรับแทนทุกคนตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเป็นกัปตันคณะนั้นหนักหนาแค่ไหน

ซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้กับรับไว้ด้วยความเต็มใจ โดยมิได้ปริปากใดๆไฮไลท์พรีเมียร์ลีก

ถึงแม้จะไม่ทำได้บรรลุภารกิจในการนำพาสโมสรกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้ เพราะเฉพาะกับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งทำได้ดีที่สุดเหมือนแค่การเป็นรองแชมป์ 3 ครั้งในฤดูกาล
2001 - 2002
2008 - 2009
2013 - 2014

ซึ่งก็ได้จบลงอย่างโศกนาฏกรรม พอเจอร์ราร์ด เป็นคน ลื่นล้ม พร้อมทั้ง ปลดเปลื้องให้โอกาสครั้งเดียวในชีวิตของเขาหลุดมือไป

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหล่าเดอะ ค็อป นั้นมี ความทรงจำ ที่งดงามร่วมกันมากมาย

นับจากวันแรกที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง สู่ประตูแรกที่สวยงามในเกมกับเชฟฟิลด์ เวย์นสเดย์ ก้าวสู่การเป็นกองกลางตัวหลักของฝ่าย ด้วยกันการเป็นกัปตันฝ่าย

ซึ่งจาก ปาฏิหารย์ที่อิสตันบูล กับโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 2005 สู่ ปาฏิหารย์แห่งคาร์ดิฟฟ์ กับโทรฟี่เอฟเอ คัพ ในปี 2006



ดังนั้นเจอร์ราร์ด เป็นทั้งแรงบันดาลใจ กับศูนย์รวมใจของ คณะลิเวอร์พูลตลอดมา

แต่ว่า เท่าที่วันเวลาเดินทางมาถึงวันที่แข้งขานั้นไม่แข็งแรงเหมือนก่อน พละกำลังไม่มีเหมือนเก่า นักฟุตบอลผู้ทระนงในการเล่นอันสง่างามของตัวเองอย่างเจอร์ราร์ด ยังไม่อาจตัดใจยอมรับสภาพของตัวเองได้

ซึ่งรายได้พร้อมทั้งระยะเวลาในปฏิญาณ 12 เดือนที่ หมู่ลิเวอร์พูล เพิ่งจักมอบให้ในเดือนพฤศจิกายน

- ซึ่งนี่จักเป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นคำถามว่าเหตุใดบอร์ดบริหารhttp://sport.sanook.com/football/premierleague/จึงดำเนินการล่าช้าขนาดนี้

- กับไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกว่าเขา นักฟุตบอลผู้เคยเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล จะต้องตกอยู่ในฐานะตัวสำรองที่ต้องเฝ้ารอโอกาสตัวเองอย่างอดทน หรือสมมติลงตัวแท้จริงก็ถูกตราหน้าว่าเป็น ตัวถ่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากในความรู้สึก

ถ้าแม้อยู่อย่างนี้ สู้จากไปเสียดีกว่า ไปค้นหาความท้าทายใหม่ในบั้นปลายของชีวิตการเล่น ไปในที่ที่เขายังทำได้เป็นเบอร์หนึ่งได้อีกครั้ง

ซึ่งก็ไม่มีหนทางใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ดังนั้นนี่จึงเป็นการตกลงใจ เพื่อตัวเอง ครั้งแรกพร้อมด้วยครั้งเดียวของเจอร์ราร์ด เป็นการ ตัดสินใจแห่งชีวิต ที่เดอะ ค็อปทุกคนควรต้องยอมรับพร้อมทั้ง ปล่อยให้เขาได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เช่นกันกับเพื่อให้สโมสรได้ก้าวเดินถัดจากนั้นข้างหน้าไม่ต้องเสียเวลากังวลกับไม้ใกล้ฝั่งเช่นเขาอีก

พร้อมกับการปลงใจครั้งนี้ยังทำให้ทุกคนได้ ตระหนัก ถึงความยิ่งใหญ่ของนักฟุตบอลคนนี้อีกครั้ง เพราะบางทีการมองจากเบื้องหน้านั้นเราอาจไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเจอร์ราร์ด ได้เท่ากับการมองจากเบื้องหลังในวันที่เขาต้องไป

ถึงแม้ว่าเจอร์ราร์ด จักไม่ได้ลงนามในให้คำมั่นฉบับสุดท้ายที่สโมสรมอบให้ พร้อมทั้งแม้จะต้องร่ำลาจากกันไปก่อนในวันนี้

แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อตารางบอลสโมสรตลอดระยะเวลา 16 ปีในการเป็นนักเตะ กับอีก 25 ปีที่ใช้ชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ ด้วยกัน 34 ปีที่มอบทั้งกายพร้อมด้วยใจให้แก่ลิเวอร์พูล สโมสรรักแรกพร้อมทั้งรักเดียว

หากต่อให้จะไม่ได้สถานะ One-man-club เหมือนเจมี่ คาร์ราเกอร์ - แล้วเจอร์ราร์ด นั้นยังคงเป็นตำนานหมายเลขหนึ่งในดวงใจของเดอะค็อปชนเสมอ ในฐานะ มิสเตอร์ ฝ่ายลิเวอร์พูล ที่ไม่มีใครสามารถทดแทนได้ตลอดกาล

ซึ่งสิ่งสุดท้ายที่เจอร์ราร์ด จะมอบให้แก่เดอะ ค็อป คือ ข้อตกลงใจ ที่จะแย้มกล่าวกับทุกคนว่าอย่าได้เศร้าเสียใจนาน

เพราะว่าว่าการจากลาครั้งนี้เป็นเหมือนชั่วคราวเท่านั้น

ซึ่งครั้งถึงเวลา เขาจะกลับมา กับจักไม่มีวันจากไปไหนอีก !!

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอลตัวนำมาเลย์ จวก โค้ชซิโก้ ยะโสหรือตาขาว!

สื่อมาเลย์ จวก โค้ชซิโก้ หยิ่งหรือว่าขี้ขลาด!




ภายหลังที่ได้ กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที ที่ โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นั้นไม่ได้ออกมาแถลงข่าวก่อนเกม ทำให้สื่อฟุตบอลมาเลย์ได้พาดหัวข่าวตัวโตว่า หยิ่งเหรอขี้ขลาด

ทั้งนี้การแถลงข่าววิเคราะห์บอลก่อนเกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกซูซูกิคัพ 2014 ระหว่าง ฝ่ายชาติไทย พบ พวกชาติมาเลเซีย พอวานที่ทะลวงมา โค้ชเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนหมู่ชาติไทย ได้ส่ง โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน พร้อมด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารกัปตันทีม มาร่วมกันแถลงข่าว

โดยที่ผู้สื่อข่าวมาเลเซีย นั้นพยายามที่จักถามจี้ ถึงเรื่องการไม่ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเองของ โค้ชซิโก้ ซึ่งทาง โชคทวี พรหมรัตน์ นั้นได้ตอบแค่สั้นๆ ว่าเราเป็นคณะเดียวกัน ทุกคนมีหน้าที่ช่วยงานหัวหน้าโค้ช

เขาได้กล่าวว่า พวกเราทำงานกันเป็นหมู่ โค้ชเองมีหน้าที่กำกับทีม ส่วนทางด้าน สต๊าฟฟ์เองก็มีหน้าที่ช่วยงานโค้ช พร้อมทั้งรับคำสั่งมาปฏิบัติตาม อดีตปราการหลังหมู่ชาติไทยกล่าว

ด้วยกันจากประเด็นนี้ทำให้ สื่อของมาเลเซีย หลายสำนัก นำไปตีข่าว กับ พาดหัวข่าวว่า กุนซือหมู่ชาติไทยว่า Graeme arrogance or cowardice? หรือไม่แปลว่า หยิ่ง หรือไม่ ขี้ขลาดกันแน่? ที่ไม่ยอมออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้

ซึ่งในโปรแกรมบอลเกมนัดชิงชนะเลิศ นัดแรก ของ ศึกฟุตบอลไทย เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 จะมีขึ้นในเย็นวันนี้ เวลา 19.00 นาฬิกา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บอล: ลงมาพินิศเช็กใบเก็บเงินศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษสกัดกั้นหน่อยเจริญกว่า

มาดูเช็กบิลศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษกันหน่อยดีกว่า




ซึ่งสกู๊ปหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 15 มาดูซิว่ามีอะไรเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้บ้าง




ข้อแรก ปิดฝาไร้พ่าย


คราวนี้ก็เลิกพูดอย่างเป็นทางการกับแนวทางไร้พ่ายของ ฝ่ายเชลซีในฤดูกาลนี้ จบสิ้นลงแล้วด้วยฝีมือของ กลุ่มนิวคาสเซิล เชื่อว่าเป็นแมตช์ที่ทุกคนรอคอยยกเว้นแฟน หมู่เชลซี สถานการณ์แบบนี้กระหายเห็นกันมานาน

ครั้นเมื่อฝ่ายเชลซีสะดุดตอ ทำให้หลายทีมแช่งอยู่ในใจแบบนี้ เพราะเฉพาะ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ประกาศตั้งหน้าตั้งตาไล่ล่าอย่างชัดเจน แต่แล้ว ทีมซันเดอร์แลนด์ ทำเป็นตัวอย่างเอาไว้ว่าอาจดึงแต้มจาก ทีมเชลซีได้ ทำให้ ฝ่ายนิวคาสเซิล นั้นตอกย้ำอีกครั้งอย่าว่าแต่แบ่งแต้ม ยึดมาครองทั้งหมดยังได้

ซึ่งได้ปิดฝาไร้พ่ายอย่างเป็นทางการจึงเกิดขึ้น ไม่ต้องถกเถียง ไม่ต้องคาดเดาอีกต่อไป




ข้อที่สอง โค้ชโจเซ่ มูรินโญ่

หลังจากที่ ไม่มีอาการเครียดให้เห็นกันมานาน ซึ่งผลงานลูกกลุ่มตอบสนองอย่างต่อเนื่อง แม้มีเรื่องไม่ถูกใจบ้างแต่ข้ามไปได้ เอาตัวรอดไปได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหายโลกฟุตบอลเป็นแบบนี้ น้ามู รู้สึกแบบนั้นจนกระทั่งวันที่ความพ่ายแพ้เข้ามาเยือน

ซึ่งแม้แต่เด็กเก็บบอล โจเซ่ มูรินโญ่ นั้นยังไม่สบอารมณ์ ถ่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่กวนใจ น้ามู เป็นที่สุด ไม่ชินกับสถานการณ์เป็นแบบนี้ง่ายอยู่แล้วกับการอารมณ์เสีย

ทำให้สถานการณ์ของ กรุ๊ปเชลซีใช่ว่าเลวร้ายจนรับไม่ได้ ผิดพลาดครั้งใหญ่จนดิ่งลงเหว เส้นทางยังคงดูดี เพียงแต่ทุกกรุ๊ปต่างรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เป็นได้คาดเดากับวางแผนที่จะแบ่งแต้มจาก กรุ๊ปเชลซีได้ ไม่ใช่เรื่องเกินตัวอีกถัดจากนั้น




ข้อที่สาม ปาปิสส์ ซิสเซ่

ต้องวิเคราะห์บอลให้เครดิตร่วมกันทั้งพวก ซึ่งทั้ง 2 ประตูที่จัดการ หมู่เชลซี ตัวของ ปาปิสส์ ซิสเซ่ ได้สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับ หมู่เชลซีได้เป็นอย่างดี คงจำชื่อนี้ไปอีกนานกับการหยุดยั้งความฝันไร้พ่าย

ซึ่งหลังจากเดินหน้าแบบแฟนบอล กลุ่มสาลิกายังตกใจ ไม่หมายจักเชื่อว่า อลัน พาร์ดิว จักสมรรถพาพวกชนะติดต่อกันได้แบบยาวๆ กำลังเพลิดเพลินในการเดินทาง สะดุดด้วยการพ่ายให้ กรุ๊ปเวสต์แฮมต่อเนื่องด้วยการเจ๊า หมู่เบิร์นลี่ย์

ก็เริ่มต้นจักมีข้อสงสัยกันว่า หมู่นิวคาสเซิล จะสร้างเส้นกราฟแบบวูบวาบหรือไม่เปล่า สุดท้ายได้คำตอบที่สุดยอดด้วยการกลับมาเก็บ 3 แต้ม ในเกมที่ใครๆ ต่างจับตา




ข้อที่สี่ คณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ซึ่งการไล่ล่าแบบมีความหมายเหลือเกิน มานูเอล เปเญกรินี่ ได้กระตุ้นลูกฝ่ายเรือใบทุกนัดว่า กลุ่มเชลซีต้องมีสะดุด เพราะฉะนั้นการเดินหน้าของตัวเองต้องมั่นคงไว้ก่อน ภายหลังนั้นค่อยหันไปมอง น้ามู กับลูกฝ่ายว่าโดนคู่แข่งทีมไหนขัดขาได้บ้าง

พร้อมด้วยจากแต้มที่ริเริ่มมีการมองกันว่าชักจะห่างไปหน่อย เรือใบขยับไล่ด้วยการเก็บชัยชนะทุกนัดใน 4 เกมหลังสุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชลซีทีเขวไปบ้าง ทำให้การไล่ขยับเข้ามาใกล้จนหายใจรดต้นคอกันเรียบร้อยแล้ว

คะแนน 3 แต้ม คือระยะห่างที่เห็นกันเต็มตาในตารางบอลอันดับ ความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้นแน่นอน





ข้อที่ห้า กุน อเกวโร่

เพราะด้วยภาพอาการบาดเจ็บ นั่นคือปัญหาใหญ่ กุน อเกวโร่ คือนักเตะคนสุดท้าย ในศึกพรีเมียร์ลีกที่ มานูเอล เปเญกรินี่ ต้องการเห็นในมุมของการบาดเจ็บ

จะเห็นได้ว่ามีการตอกย้ำกันมาตลอด กำลังสำคัญในการไล่ล่าแชมป์ของเรือใบ อเกวโร่ คือกองกำลังที่สำคัญมากๆ ต้องพยายามหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บให้มากที่สุด

ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครการันตีเรื่องแบบนี้ได้ แต่นั่นคือปัจจัยที่เรือใบรับรู้เป็นอย่างดี ไม่มี กุน อยู่ช่วยงานมากนัดเท่าไหร่จะมีผลกระทบต่อการไล่ตาม คณะเชลซีมากเท่านั้น

หลังจากที่ดึง 3 แต้ม มาจาก ฝ่ายเอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จ พร้อมกับช่วงเวลาที่เชลซีโดนเล่นงาน ความแฮปปี้เข้ามาเยือน โค้ชมานูเอล เปเญกรินี่ แบบเต็มๆ

แล้วเรื่องซวยก็มาเยือน คือ กุน อเกวโร่ นั้นได้รับบาดเจ็บ ในนาทีนี้คาดหวังว่าอย่าเจ็บนานก็แล้วกันครับ




ข้อที่หก อาร์แซน เวนเกอร์

ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เฮียแกจะมาอารมณ์ไหนเหมือนกัน โดนทั้งแฟนบอล กลุ่มสโต๊ค เล่นงานตั้งแต่ยังไม่โหมโรงเกม โดนทั้งแฟนบอลตัวเองต่อว่าต่อขาน ก่อนหน้านี้ เวนเกอร์ ตอบโต้แฟนบอลไว้ว่า ย้อนกลับไปดูสถิติของหมู่ปืนโต มีกุนซือคนไหนในโลกนี้ที่พากรุ๊ปเข้าไปรอบน็อกเอาต์เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นประจำ มีลุ้นแชมป์ กับ ติดท็อปโฟร์ ตลอด

พร้อมกับกุนซือคนไหนจะเทียบชั้นกับ เวนเกอร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ต้องยอมรับในความเป็นจริงๆ แต่ทว่า ภาพเดิมๆ แบบนั้นเกี่ยวกับแฟนบอลคือความซ้ำซาก ได้แค่นั้นโดยไม่รอบรู้ขยับความรู้สึกให้มากกว่าเดิมได้

เป็นเรื่องธรรมดาครับกับความต้องการของคน ถูกใจทั้งหมดทุกครั้นเชื่อวันคงเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายแค่ไหนนั่นสำคัญกว่า

ซึ่งเวนเกอร์ นั้นทำนูลไว้ชัดเจนแล้วว่า อีก 3 ปี หมู่อาร์เซนอล ชุดนี้จะลุ้นแชมป์เต็มตัว รอกันได้หรือว่าเปล่า




ข้อที่เจ็ด ปัญหาซ้ำซาก

ซึ่งนอกจากอาการแผ่วเป็นพักๆ ของ พวกอาร์เซนอลที่เราเห็นเป็นประจำ อาการบาดเจ็บก็มักจักเล่นงานจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์บอลสถานการณ์ทั้งหมด หาสาเหตุหรือว่าความเป็นไปว่าเป็นเช่นไรกันแน่

เพราะที่อีกเรื่องหนึ่งคือใบแดงแจ้งโทษ มีเป็นประจำเช่นกันกับลูกเหล่าของ เวนเกอร์ นักเตะบาดเจ็บ นักเตะติดโทษแบบเป็นปัจจัยเกี่ยวกับทุกเหล่า แต่ กรุ๊ปอาร์เซนอล มักจักหลีกเลี่ยงได้ไม่ดีเท่าไหร่ กลับไปปรับปรุงเดี๋ยวนี้




ข้อที่แปด พลาดทั้งในพร้อมกับนอกสนาม

เรียกว่าเป็นเรื่องของ คณะฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่ได้เจอเหตุการณ์นี้ ที่พลาดในสนามเป็นเรื่องราวที่ ปลงปละละเลยความเด็ดขาด ใช้โอกาสเปเลื่องงไปเรื่อยเปื่อย

ซึ่งจังหวะไหนต้องได้หรือว่าควรจักได้จำเป็นต้องรักษาเอาไว้ ยิ่งเกมที่เล่นในบ้านยิ่งต้องได้ น่าเสียดายที่หงส์แดงทำไม่สำเร็จ

ซึ่งเรื่องราวนอกสนามก็คือ ฝ่ายเชลซี ปราชัย พวกอาร์เซนอล แพ้ ซึ่งนี่คือโอกาสทองในการเก็บแต้มขยับตัวเองให้ชัดเจน โอกาสที่ด้านบนจะพลาดพร้อมๆ กันนั้นไม่ง่าย แต่ทว่าสถานการณ์ข้ามไปแบบน่าเสียดายอีกแล้ว

ก็เอาเป็นว่าการเจ๊า ทีมซันเดอร์แลนด์ นี้เป็นเรื่องเสียหายไม่น้อย พลาดทั้งการเก็บแต้มเต็มในบ้าน พลาดทั้งการขยับแต้มในจังหวะที่พวกใหญ่นัดกันพลาด

ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าหนักอกหนักใจเหตุด้วย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พร้อมด้วยลูก เหล่าลิเวอร์พูล อย่างยิ่ง ต้องเคลียร์ต้องเกลี่ยนักเตะให้เหมาะสมกับโปรแกรม แม้ว่าฟอร์มเพราะว่ารวมยังไม่เป็นอย่างที่คาด

เพราะที่เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ในนัดชี้ชะตารออยู่เต็มๆ กลางสัปดาห์ รวมถึงศึกพรีเมียร์ลีก นัดถัดจากนั้นต้องทำศึกแดงเดือดกับ คณะผีแดง

นั่นทำให้ ร็อดเจอร์ส ต้องมีเรื่องให้คิดพร้อมด้วยทำการบ้านแบบละเอียดยิบเต็มไปหมด ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า ฝ่ายยังคงไม่มีฟอร์มที่น่าประทับใจอะไรเลย





ข้อที่เก้า คิวพีอาร์

ก็ได้โชคสองชั้นเข้ามาเยือนบ้างแล้ว ชั้นแรกคือเชี่ยวชาญเก็บผลบอล 3 แต้ม ที่ต้องการได้เสียที เจอคู่แข่งลักษณะนี้ทำได้ตามแผน ตามความต้องการนั้นนั้นสำคัญมากๆ

ซึ่งนอกจากขยับตัวเองได้แล้ว ยังกดคู่แข่งที่คาดว่าจักแย่งชิงพื้นที่อยู่รอดกันได้อีกด้วย โชคชั้นที่ 2 ของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ กับลูกหมู่ก็คือทำเป็นดีดตัวเองออกมาจากเรดโซนได้สำเร็จ

นี่ก็เป็นการชั่วคราวก็ยังดีกว่าจมอยู่ตรงนั้นนานๆ ที่อยู่ต้องรอดูว่าปัญหาใบแดงของ ชาร์ลี ออสติน จะมีผลกระทบต่อเหล่ามากน้อยแค่ไหน

เขียนเรื่องเพราะ ดามัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกใครหมายถึงเนื้อตัว แสบ ของใช้ใครมาดูกัน

ใครเป็นตัว แสบ ของใครมาดูกัน





เนื่องด้วยโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์นี้ มีการพบกันระหว่างสองเหล่าที่มีสถิติไม่ก็ผลงานข่มกันอยู่หลายคู่ หรือว่าพูดง่ายๆ ว่าหมู่หนึ่งจะเป็นเหล่าที่มักจะทำแสบกับอีกหมู่หนึ่งเสมอ ไม่ว่าจักด้วยการชนะอย่างต่อเนื่อง การไม่พ่ายได้อย่างยาวนาน หรือการมีสถิติดีกว่าในบ้านหรือนอกบ้าน

ภายหลังที่หนังสือพิมพ์อย่าง เดอะเทเลกราฟ ได้ทำการประมวลคณะว่าทั้ง 20 คณะ ในศึกพรีเมียร์ลีกเดี๋ยวนี้ มาดูกันว่าจักมีฝ่ายไหนเป็นทีมแสบที่คอยเป็นหนามยอกของพวกคู่แข่งอยู่บ้าง


1.คณะแสบของ ฝ่ายอาร์เซนอล คือ หมู่เชลซี



ด้วยฝ่ายอาร์เซนอลนั้น ลงเตะกับ หมู่เชลซีมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งภายหลัง โจเซ่ มูรินโญ่ ได้กลับมาคุมฝ่ายคู่แข่งร่วมเมืองรอบสอง พร้อมด้วยแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 10-0 แถมก่อนหน้านี้ โค้ชอาร์แซน เวนเกอร์ ก็ไม่เคยนำทีมปืนใหญ่เอาชนะ ทีมสิงโตน้ำเงินครามของ มูรินโญ่ ได้เลยในการพบกันทั้งสิ้น 8 นัด


2.หมู่แสบของ ทีมแอสตัน วิลล่า คือ คณะฟูแล่ม



นับเวลาตั้งแต่ กลุ่มสิงห์ผงาด นั้นเอาชนะ กรุ๊ปเจ้าสัวน้อยได้แบบไปกลับในฤดูกาล 2009-2010 พวกเขาก็ชนะได้อีกแค่ครั้งเดียวในการพบกัน 3 ฤดูกาลภายหลังนั้น แถม หมู่วิลล่ายังพ่ายแพ้ทั้ง 2 นัด ในฤดูกาลที่แล้วที่ พวกฟูแล่มตกชั้นด้วย


3.เหล่าแสบของ พวกเบิร์นลี่ย์ คือ เหล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้



ภายหลังที่วิเคราะห์บอล หมู่มิดเดิลสโบรห์ กับ กลุ่มแบล็คเบิร์น ซึ่งทั้งสองพวกนั้นเป็นหมู่แสบเกี่ยวกับ หมู่เบิร์นลี่ย์ แต่ว่าหมู่แมนฯ ซิตี้ เป็นเป็นเหล่าที่ไม่พ่ายต่อพวกเขามายาวนานที่สุดถึง 40 ปี แถมกรุ๊ปเละบือดหมูยังปราชัยต่อ กลุ่มเรือใบสีฟ้าด้วยสกอร์ 5 ด้วยกัน 6 ลูกอีกอย่างละ 2 ครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่ ที่เป็นฝ่ายชนะได้ครั้งหลังสุดครั้งปี 1974


4.คณะแสบของ ฝ่ายเชลซี คือ กลุ่มซันเดอร์แลนด์



โค้ชโจเซ่ มูรินโญ่ นั้นต้องเสียสถิติอันแสนภาคภูมิใจของเขาที่ ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ลงด้วยน้ำมือของทีมซันเดอร์แลนด์ครั้งฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่กรุ๊ปแมวดำ นั้นกลายเป็นเหล่าแรกที่บุกมาชนะ คณะสิงโตน้ำเงินคราม ได้ถึงบ้านได้ในเกมลีกในยุคที่เขาคุมหมู่อยู่ แถมยังโดนเขี่ยตกรอบลีกคัพไปในฤดูกาลเดียวกันด้วย


5.กรุ๊ปแสบของ คณะคริสตัล พาเลซ คือ ฝ่ายโบลตัน



สถิติของหมู่พาเลซ นั้นไม่เคยเอาชนะเกมลีกที่บ้าน เหล่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้นับตั้งแต่ปี 1989 กับไม่เคยชนะที่บ้าน เหล่าอาร์เซนอลตั้งแต่ปี 1994 แต่ก็คงไม่ถือว่าเหนือความคาดหมายอะไร เพราะว่าฉะนั้นหมู่ที่น่าจักเป็นตัวแสบที่สุดของพวกเขาคงเป็น ฝ่ายโบลตัน ซึ่ง พวกพาเลซ นั้นยังเอาชนะได้แค่ครั้งเดียวในการพบกัน 16 นัดหลัง


6.คณะแสบของ คณะเอฟเวอร์ตัน คือ ทีมลิเวอร์พูล



ถ้าสมมติจะมีหมู่ไหนที่สร้างความเจ็บแสบให้กับ กรุ๊ปเอฟเวอร์ตัน ได้มากไปกว่าคู่ปรับร่วมเมืองอย่างกลุ่มลิเวอร์พูล ซึ่งทีมทอฟฟี่ นั้นแพ้ หมู่หงส์แดง ใน

  1. นัดชิงลีกคัพ 1 ครั้ง 
  2. นัดชิงเอฟเอคัพ 2 ครั้ง 
  3. รอบตัดเชือกเอฟเอคัพ 1 ครั้ง 

ซึ่งไม่เคยชนะที่ถิ่นแอนฟิลด์เลยนับตั้งแต่เปลี่ยนสหัสวรรษใหม่ มีเช่นฝ่ายอาร์เซนอลเท่านั้นที่เอาชนะหมู่เอฟเวอร์ตันได้มากกว่าพวกลิเวอร์พูล


7.กรุ๊ปแสบของ กรุ๊ปฮัลล์ คือ ฝ่ายเบิร์นลี่ย์



สถิติเพราะว่าส่วนตัวแล้ว หมู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นอาจจักเป็นกลุ่มแสบเพราะว่า โค้ชสตีฟ บรู๊ซ เพราะกุนซือของ พวกฮัลล์ยังไม่เคยควบคุมกรุ๊ปเอาชนะเหล่าเก่าของเขาได้เลย แต่ถ้าในฐานะทีมแล้ว กลุ่มเบิร์นลี่ย์คือตัวแสบด้วย กรุ๊ปฮัลล์เลยทีเดียว ก็เพราะว่าเอาชนะได้ถึง 8 นัด จาก 9 นัดครั้งหลังสุด ที่พบกัน รวมถึงชัยชนะ 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลของทีมเโจษดหมูด้วย


8.ฝ่ายแสบของ พวกเลสเตอร์ คือ กลุ่มเวสต์แฮม



ปางแค่ชื่อของ คณะเวสต์แฮม นั้นก็คงทำให้ หมู่เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นต้องขนลุกขนพองได้แล้ว เพราะว่า พวกจิ้งจอกสยาม นั้นคว้าชัยชนะเหนือ กรุ๊ปขุนค้อน ได้แค่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ปี 1966 ไม่ใช่หรือใน 53 นัดหลังสุดที่พบกันนั่นเอง และต้องหวังว่าจักหยุดสถิตินั้นลงได้ ในการพบกันครั้งต่อจากนั้นในวันที่ 20 ธันวาคมนี้


9.กลุ่มแสบของ หมู่ลิเวอร์พูล คือ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้



ถ้าถ้าหากลองย้อนตารางบอลพรุ่งนี้กลับไปตั้งแต่ทศวรรษ 1960 กลุ่มเลสเตอร์ถือเป็นกรุ๊ปสุดแสบเนื่องด้วย พวกลิเวอร์พูลแล้ว โดยคณะจิ้งจอก นั้นบุกคว้าชัยที่แอนฟิลด์ได้ 3 นัดติด ในระหว่างปี 1963 - 1965 ซึ่งเป็นช่วงที่หมู่ยุคแรกของโค้ช บิลล์ แชงค์ลีย์ กำลังก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ หลังจากนั้น กลุ่มเลสเตอร์ก็ยังเอาชนะ ทีมลิเวอร์พูลได้ในอีกหลายแมตช์สำคัญ ๆ


10.หมู่แสบของ เหล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือ หมู่ซันเดอร์แลนด์



สถิติของคณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้พ่าย พวกซันเดอร์แลนด์ ด้วยสกอร์ 0 - 1 ตลอด 4 ครั้งหลังสุดที่ไปเยือนในถิ่น สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ยังไม่นับเกมล่าสุด พร้อมด้วยก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะถูกอภิมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลางเข้ามาเทกโอเวอร์ตราบเดือนกันยายนปี 2008 พวกเขาไม่เคยบุกชนะ เหล่าแมวดำได้เลย


11.กลุ่มแสบของ พวกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ คณะเชลซี



ไม่มีฝ่ายไหนแย่งแต้มจากแมนฯ ยูไนเต็ดในยุคของพรีเมียร์ลีกได้มากไปกว่าเชลซีอีกแล้ว แม้ปิศาจแดงจะเอาชนะสิงโตน้ำเงินครามได้ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกตราบปี 2008 แต่สถิติการพบกันใน 10 นัดหลังสุดนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดชนะได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น


12.เหล่าแสบของ หมู่นิวคาสเซิล คือ กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ซิตี้



ถึงแม้ว่า คณะนิวคาสเซิล นั้นจะบุกคว่ำ พวกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ลงได้ในลีกคัพฤดูกาลนี้ แต่ว่าสถิติของหมู่สาลิกาดง นั้นก็ยังเป็นรอง พวกเรือใบสีฟ้าอยู่บานเบอะ ครั้นต้องแพ้รวดมา 11 นัดก่อนหน้านั้น พร้อมทั้งชนะได้แค่ 2 จาก 22 นัดหลังสุดที่พบกัน


13.หมู่แสบของ ทีมควีนส์ปาร์ค คือ พวกน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์



กลุ่มควีนส์ปาร์ค ได้ลงเตะกับ ฝ่ายฟอเรสต์ ที่ ถิ่นซิตี้ กราวด์มาแล้วทั้งสิ้น 29 นัด เพราะว่าไม่เคยชนะแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าถ้าหากลองย้อนกลับไปตั้งแต่การพบกันครั้งแรกในเกม เอฟเอคัพ เท่าที่ปี 1934 ซึ่งเจ้าป่าเปิดบ้านถล่ม ฝ่ายทหารเสือราชินี ไปผลบอล 4-0


14.กรุ๊ปแสบของ หมู่เซาธ์แฮมป์ตัน คือ กลุ่มซันเดอร์แลนด์



พวกเซาธ์แฮมป์ตัน นั้นไม่เคยเอาชนะ เหล่าซันเดอร์แลนด์ ได้เลยในช่วง 11 ปีที่ทะลวงมา พร้อมทั้งก่อนที่จักเปิดบ้านยิงไปถึง 8 - 0 ในฤดูกาลนี้ ถือเป็นการถอนแค้นแบบทั้งต้นทั้งดอกจากที่ไม่ชนะเลยในการพบกัน 8 นัดก่อนหน้านี้


15.คณะแสบของ เหล่าสโต๊ค คือ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด



ซึ่งถ้านับตั้งแต่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ศึกพรีเมียร์ลีกได้ การที่ได้ไปเยือน ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ ทีมสโต๊คทั้ง 7 ครั้ง ลงเอยด้วยความพ่ายจำนนทั้งหมด รวมถึงในเกมล่าสุดที่เพิ่งพบกันด้วย เพราะว่าช่างปั้นหม้อเสียไปถึง 22 ประตู ใน 7 นัดนี้


16.เหล่าแสบของ ฝ่ายซันเดอร์แลนด์ คือ ทีมเอฟเวอร์ตัน



คณะซันเดอร์แลนด์ นั้นทำได้แค่เสมอกับ เหล่าเอฟเวอร์ตัน 1-1 ในบ้านในการพบกันในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทำให้ ฝ่ายแมวดำ ชนะ เหล่าทอฟฟี่สีน้ำเงินได้แค่ 2 นัดจาก 23 นัดหลังสุดเท่านั้น พร้อมทั้งยังเคยถูกถล่มถึง 7-1 ในการพบกับที่ สนามกูดิสัน ปาร์ค ทันทีที่ปี 2007 อีกด้วย


17.หมู่แสบของ พวกสวอนซี คือ เหล่าเอฟเวอร์ตัน




เพราะพวกสวอนซี ที่เพิ่งเอาชนะ กรุ๊ปเอฟเวอร์ตันได้เป็นครั้งแรกในประวัติบุคคลศาสตร์ ในเกมลีกคัพที่พบกันในฤดูกาลนี้ที่ สนามลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ภายหลังที่ไม่เคยชนะเลยใน 20 เกมก่อนหน้านี้ ซึ่ง ฝ่ายหงส์ขาวนั้นปราชัยไปถึง 15 ครั้ง ด้วยกัน ในเกมล่าสุดที่พบกันใน ศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่ สนามกูดิสัน ปาร์ค ในเกมก็ลงเอยด้วยการเจ๊ากันแบบโนสกอร์


18.กรุ๊ปแสบของ กรุ๊ปสเปอร์ส คือ คณะเชลซี



ภายหลังที่ เหล่าสเปอร์ส นั้นบุกมาชนะ กรุ๊ปเชลซีได้แค่ครั้งเดียวใน 27 นัดหลัง ด้วยกันยังไม่นับเกมล่าสุด เหรอนานถึง 24 ปี มาแล้ว ที่พวกเขานั้นคว้าชัยได้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ส่วนสถิติของการพบกันที่ไวท์ฮาร์ทเลนก็ไม่ได้ดีกว่านั้นมากนัก เพราะทีมไก่เดือยทอง นั้นเอาชนะ กลุ่มสิงห์โตน้ำเงินครามในบ้านไม่ได้เลยในระหว่างปี 1987-2006


19.พวกแสบของ กรุ๊ปเวสต์บรอมวิช คือ กรุ๊ปสโต๊ค




พวกสโต๊ค นั้นมีสถิติข่ม หมู่เวสต์บรอมมาโดยตลอดในช่วงหลังๆ ทันทีที่ชนะถึง 11 ด้วยกัน ไม่ได้พ่ายเลยใน 15 นัดที่พบกัน จนแฟน กลุ่มช่างปั้นหม้อ ถึงกับแต่งเพลงเชียร์เอาไว้ร้องเยาะเย้ย แฟนคณะฟุตบอลเดอะแบ็กกี้ส์ โดยเฉพาะ ด้วยกันในการพบกัน 30 ครั้งหลังสุด ทีมเวสต์บรอม นั้นเอาชนะได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น


20.กลุ่มแสบของ เหล่าเวสต์แฮม คือ กลุ่มเอฟเวอร์ตัน



สมมุติลองย้อนกลับไปปี 2007 ที่ เหล่าเวสต์แฮม นั้นเอาชนะ ทีมเอฟเวอร์ตันได้ครั้งหลังสุด ภายหลังนั้นฝ่ายทอฟฟี่ก็เอาชนะ หมู่ขุนค้อนได้ถึง 9 จาก 13 นัดที่พบกัน ซึ่งแม้แต่ในช่วงที่ พวกเวสต์แฮมฟอร์มกำลังพุ่งในฤดูกาลนี้ พวกเขาก็ยังออกไปพ่าย ทีมเอฟเวอร์ตัน 1 - 2 ที่ สนามกูดิสัน ปาร์ค


วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บัญชีชื่อวิเคราะห์บอล10 นักฟุตบอลคนใหม่สรรพสิ่งการต่อสู้พรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษ

หลังจากที่ได้ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วด้วยว่าตลาดนักเตะฟุตบอลซัมเมอร์ฤดูกาล 2014-15 พร้อม ด้วยนี่คือ 10 แข้งใหม่ของศึก โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองที่สุดจาก สื่อเดลี่เมล์ สื่อชื่อดังแดนผู้ดีครับ

1. นักเตะ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์  อายุ 25 ปี

  • สังกัดสโมสร : เหล่าเซาธ์แฮมป์ตัน สนธิสัญญากู้ตัวจากหมู่ แอตเลติโก มาดริด 
  • เล่นในตำแหน่ง : เซ็นเตอร์ฮาล์ฟพร้อมทั้งแบ็กขวา

เป็นเจ้าของหมวกของ เหล่าชาติเบลเยียม 37 นัด เพราะอัลเดอร์ไวเรลด์ ที่ถือว่าเป็นกองหลังสารพัดประโยชน์คนนึงของวงการลูกหนังยุโรป กับศึกพรีเมียร์ลีกจักเป็น ด่านประลองครั้งใหญ่ของเขา


2. นักเตะ เบนจามิน สตัมบูลี่ อายุ 24 ปี
  • สังกัดสโมสร : พวกสเปอร์ส ค่าจ้างอยู่ที่ 4,7 ล้านปอนด์ เขยื้อนจาก คณะมงต์เปลลิเย่ร์ 
  • เล่นในตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ

ซึ่งถึงจะเข้ามาร่วมทัพไก่เดือยทอง ด้วยเหตุผลก็เพราะว่าหมู่พลาดได้ตัว มอร์กก็อง ชไนเดอร์แล็ง ของ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็เถอะ แต่ปีที่แล้วในลีกเอิง หมอนี่เล่นได้ท็โดดเด่นสุดๆ


3. นักเตะ ราดาเมล ฟัลเกา อายุ 28 ปี

  • สังกัดสโมสร : คณะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คำสัญญาขอยืมตัว จากคณะ โมนาโก + เงิน 6 ล้านปอนด์ 
  • เล่นในตำแหน่ง : กองหน้า

เรียกได้ว่าสุดยอดกองหน้าคนนึงแห่งยุค ยิงระเบิดระเบ้อกับทุกทีมที่ค้าแข้งด้วย ถึงแม้จักถูกมองว่าหน้าเงิน แต่วิเคราะห์บอลฝีเท้าของเขา ก็ไม่รับไม่ได้ว่า ของแท้


4. นักเตะ อาเบล เฮอร์นันเดซ อายุ 24 ปี

  • สังกัดสโมสร : พวกฮัลล์ ซิตี้ ค่าจ้างอยู่ที่ 9,5 ล้านปอนด์ ขนส่งจาก หมู่ปาแลร์โม่ 
  • เล่นในตำแหน่ง : กองหน้า

เขานั้นเป็นกองหน้า ทีมชาติอุรุกวัย ชุดลุยฟุตบอลโลก 2014 ครั้งที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังมีประสบการณ์ในลีกอิตาเลี่ยนตั้งแต่อายุ 18 ปี หน่วยก้านดี ความเร็วสูง น่าจักแจ้งเกิดในแดนผู้ดีได้ไม่ยาก


5. นักเตะ ดาลี่ย์ บลินด์ อายุ 24 ปี



  • สังกัดสโมสร : ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตัวอยูที่ 14, ล้านปอนด์ ยักย้ายจาก ทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 
  • เล่นในตำแหน่ง : แบ็กซ้ายพร้อมกับกองกลางตัวรับ

ก็เรียกได้ว่า คงจักเชื้อไม่ทิ้งแถว ด้วยว่าลูกชายของนักเตะในตำนานดัตช์อย่าง แดนนี่ บลินด์ ที่เป็นนักเตะยุคโมเดิร์นของแท้ เพราะว่าเล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรับ ฟอร์มสะเด่าเหเลื่องเกินในบอลโลก2014


6. นักเตะ มาร์กอส โรโฮ อายุ 24 ปี



  • สังกัดสโมสร : กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าตอบแทนอยู่ที่ 16, ล้านปอนด์ ขนจาก ทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน 
  • เล่นในตำแหน่ง : เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กซ้าย พร้อมกับปีกซ้าย

เขานั้นเป็น คนที่ตัวคล้ายๆ บลินด์ แจ้งเกิดจากบอลโลก 2014 เหมือนกัน แต่เขาแข็งแกร่งมากกว่า เล่นได้ตั้งแต่ ตำแหน่งเซ็น เตอร์ฮาล์ฟจนไปถึงทุกตำแหน่งในสนามที่เป็นฝั่งซ้าย ด้วยกันเป็นขาโหดในการเข้าสกัดตัวนัก


7. นักเตะ ซาดิโอ มาเน่ อายุ 22 ปี



  • สังกัดสโมสร : หมู่เซาธ์แฮมป์ตัน ค่าตัวอยู่ที่ 10 ล้านปอนด์จาก เขยื้อนจาก เหล่าเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
  • เล่นในตำแหน่ง : ปีกซ้ายกับกองหน้า

พร้อมทั้งถึงแม้ว่า เขานั้นอาจจักดูโนเนมไปบ้างเหตุด้วยตัวจี๊ดเหล่าชาติเซเนกัล แต่สถิติ 45 ประตู จาก 87 เกมกับเร้ดบูลล์ถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว อายุยังน้อยแต่แข็งแกร่ง รวดเร็วหาตัวจับยากคนนึง


8. นักเตะ เอดูอาร์โด้ วาร์กัส อายุ 24 ปี



  • สังกัดสโมสร : อยู่หมู่คิวพีอาร์ ด้วยคำสัญญาหยิบยืมตัวมาจาก พวกนาโปลี 
  • เล่นในตำแหน่ง : กองหน้าและปีก

เพราะว่าก่อนเซ็นสาบานกับนาโปลีในปี 2011 เอเย่นต์ส่วนตัวเตือนว่า แข้งกลุ่มชาติชิลีรายนี้ถูกจีบจากทั้ง
  • หมู่เอซี มิลาน
  • พวกอินเตอร์ มิลาน
  • ฝ่ายลิเวอร์พูล
  • ทีมอาร์เซน่อล
  • เหล่าบาร์เซโลน่า 
  • กลุ่มเชลซี 

9. นักเตะ ริคกี้ อัลบาเรซ อายุ 26 ปี



  • สังกัดสโมสร : เหล่าซันเดอร์แลนด์ ข้อผูกพันยืมตัวจากเหล่าอินเตอร์ มิ ลาน 
  • เล่นในตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก

เขาอยู่ในทัพ คณะฟ้าขาวชุดรองแชมป์โลก 2014 ล่าสุดเหมือนกัน พร้อมทั้งยังเป็นตัวหลัก ของ ฝ่ายอินเตอร์อยู่ช่วงนึง ก่อนจะถูกดร็อปในช่วงหลัง กับ กรุ๊ปแมวดำอาจจักเป็น โอกาสให้เขากลับมาสร้างชื่ออีกครั้ง


10.นักเตะ เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่ อายุ 34 ปี

  • สังกัดสโมสร : กลุ่มเลสเตอร์ ซิตี้ จากที่ไร้สังกัด 
  • เล่นในตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ

เพราะว่าภายหลังที่ได้ คว้าแชมป์ มาเป็นที่มากมายกับกรุ๊ป เรอัล มาดริด ด้วยกันกลุ่ม อินเตอร์ มิลาน ก่อนจักกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด จากชื่อเสียงพร้อม กับฝีเท้าที่ทะลุทะลวงมาน่าจับตามองว่าสิงห์เฒ่ารายนี้จักเอาตัวรอดได้ดีแค่ไหนในลี กผู้ดี

ฟัลเกา ขอผลิตสกอร์ พาทีมผีแดงผงาดแชมป์


ฟัลเกา ขอตั้งเป้า กับการผลิตสกอร์ผลบอลให้ พวกปีศาจแดง แบบเป็นกอบเป็นกำจนนับ ไม่ถ้วน เพื่อพาพวกเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ให้ได้

เพราะว่าที่ดาวยิงเพชฌฆาตของ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ เป็นสโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งเป้ายิงประตูแบบถล่มทลาย พร้อมกับพาต้นสังกัดผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาครองให้จงได้ในฤดูกาลนี้ เพื่อกอบ กู้ศักดิ์ศรีพร้อมทั้งเรียกความเชื่อมั่นในการเป็นพวกระดับบิ๊กเนมกลับคืนมา

ซึงทาง เอล ติเกร อาจจะได้เปิดตัวนัดแรกในสีเสื้อเหล่า ปีศาจแดง ในเกมลีกที่จักเจอ กับฝ่าย ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส วันอาทิตย์นี้ 14 กันยายน นั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า เป้า หมายของผมคือการยิงประตูให้ได้เป็นกอบเป็นกำพร้อมด้วยพากรุ๊ปคว้าแชมป์ ซึ่งมันเป็น สิ่งที่สำคัญมากเหตุด้วยผมที่จักมีส่วนช่วยสโมสรและทีมชาติโคลอมเบีย เพราะว่าว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมด้วยว่าศึก โคปา อเมริกา ด้วยกัน เวิลด์ คัพ ปี 2018
กับเพราะด้วย พรีเมียร์ลีก นี่คือลีกที่ดีที่สุดในโลก ด้วยกันก็มีนักเตะที่ดีที่สุดอยู่ที่นี่มากมาย กับคุณเองก็ต้องท้าทายกับแข้งเหล่านี้ในทุกๆ อาทิตย์ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต่อผู้เล่นอย่างผมที่กำลังมองถึงการพัฒนาฝีเท้า, ยิงประตูให้ได้มากมาย พร้อมด้วยคว้าแชมป์ ด้วยกันนี่มันถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมของผมจริงๆๆ

อีกทั้ง พร้อมกันนี้ ฟัลเกา ยังได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ยอมรับเลื่อนไปอยู่กับฝ่าย เรอัล มาดริด พร้อมทั้งเหล่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อมาอยู่กับ พวกปีศาจแดง ว่า เหล่าแมนฯ ยูไนเต็ด หมายได้ตัวผมตลอดช่วง 2-3 เดือน ซึ่งถึงแม้จะมีพวกอย่างคณะ เร อัล มาดริด สนใจในตัวผม แต่ผมต้องการมาอยู่กับกลุ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะว่านี่คือสโมสรที่ยอด เยี่ยมกับมีพระราชประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยกันเป็นที่ๆ จะทำให้ผมประสบความสำเร็จได้ มีบางช่วงนะที่ผมลังเล เรื่องขนย้ายฝ่ายจนถึงขึ้นเครียดหนักเลย แต่ท้ายผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกวันนี้ที่สุดมันก็เกิดขึ้น และนี่คือโอกาสสำคัญของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเพิ่งหายเจ็บมา

ธีรศิลป์ ฟิตซ้อมฟุตบอลอย่างหนักหวังที่จักมีชื่อลงเล่นเกมดวล กอร์โดบ้า





ล่าสุดความเคลื่อนไหวของ มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าพวกชาติไทย ที่เวลานี้อพยพไปค้าแข้งกับ อัลเมเรีย ในเวทีลาลีกา สเปน ด้วยปฏิญาณกู้ตัวจาก เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 1 ฤดูกาล โดยต้นสังกัดของ ธีรศิลป์ มีโปรแกรมลงเตะลาลีกา สเปน นัดที่ 3 ด้วยการเปิด บ้านต้อนรับการมาเยือนของ ฝ่ายกอร์โดบ้า

กับล่าสุด ธีรศิลป์ แดงดา ได้กล่าวว่า ช่วงนี้สภาพร่ายกายเกริ่นสมบูรณ์ขึ้นตามลำดับ ไม่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ ตนจักทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อให้มีโอกาสมีชื่ออยู่ ในฝ่ายเกมเปิดบ้านรับ กอร์โดบ้า ส่วนตัวถือว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมาก แต่ก็ขึ้นอยู่ กับทีมงานสต๊าฟที่จักมองว่าตัวเองเหมาะสมกับการเล่นนัดนี้หรือไม่ไม่

เพราะที่เพราะ หมู่ อัลเมเรีย นั้นจักประกาศระเบียนตาราง แข่งบอล 18 ผู้เล่นชุดที่จะพบกับ กอร์โดบ้า

เจ้าถั่วน้อยรู้งานยกให้เจ็ทโด้เก่งกว่าเมสซี่



เมื่อถั่วน้อย รู้จักที่จะวางตัว หลังอพยพร่วมทัพ กลุ่มราชันชุดขาว แบบกู้ยืมตัว ยก โรนัลโด้ เก่งกว่าเมสซี่ ด้วยเหตุผลมีความสม่ำเสมอมากกว่า

เพราะว่าที่ ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ กองหน้าป้ายแดงของหมู่ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีลา ลีกา สเปน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ เพราะว่ายกให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกเพื่อนร่วมเหล่าเหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ามหัศจรรย์ของ บาร์เซโลน่า คู่ปรับตลอด กาล โดยให้เหตุผลว่า ซีอาร์เซเว่น เป็นผู้เล่นที่รักษามาตราฐานของตัวเองได้ดีกว่าดาวเตะพวกชาติอาร์เจนติ น่า

พร้อมทั้งกองหน้าข้อผูกพันเช่าจากพวก แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงเพื่อน ร่วมกลุ่มชาวโปรตุกีสว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน โรนัลโด้ ไม่แค่แต่เขาจะทำได้ดีในแต่ละเกม แต่เขาทำหน้าที่ได้เหมือนกันในทุกๆวัน เพราะ ด้วยผม โรนัลโด้ คือนักเตะที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี่ แต่เพราะส่วนแล้วผมคิดว่า โรนัลโด้ เก่งกว่า เมสซี่ นะ

ทางด้านเอรานิโอเชื่อว่า ตอร์เรสฟอร์มบู่เหตุคณะสิงห์ไม่หนุนหลัง

ทางเอรานิโอ เชื่อว่า สาเหตุที่ เอลนินโญ่ ฉายแสงไม่ออกกับตารางบอล หมู่สิงห์บลูส์ เป็นเพราะว่าไม่ได้รับการหนุนหลัง เปรียบเหมือนรถยนต์ไม่ได้รับการดูแลอย่างดี แต่มั่นกลับมาฟอร์มโหดแน่กับ  หมู่ปีศาจแดง-ดำ

ครั้นเมื่อสเตฟาโน่ เอรานิโอ ที่เป็นโค้ชเยาวชนของ พวกเอซี มิลาน ซึ่งเป็นสโมสรชั้นนำแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

เชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกชาวสแปนิชโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีกับ หมู่เชลซี ยอดฝ่ายดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นเป็นเพราะว่านักเตะไม่ได้รับการหนุนภายหลังทาง โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ชาวโปรตุกีส

ซึ่งได้เปรียบเทียบตัวนักเตะว่าเป็นเหมือนรถยนต์ที่ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็มั่นใจว่า เอลนินโญ่ จะกลับมามีฟอร์มที่สุดยอดอีก ครั้งกับทัพ ทีมปีศาจแดง-ดำ

อีกทั้งอดีตกองกลางเหล่าชาติ อิตาลี ยังได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอร์เรส เป็นผู้เล่นที่เจียมเนื้อเจียมตัวมาก พร้อมกับเขาก็เป็นผู้เล่นที่มีเทคนิคกับฝีเท้าอันยอดเยี่ยม แต่ช่วงไม่กี่ปีที่สร้าง ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้รับโอกาสพร้อมด้วยได้แต่นั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรอง เชลซี ซึ่งเขาก็ เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่งนะ เขาจำเป็นต้องหาฟอร์มเก่งให้เจอ เขาจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวโค้ชพร้อมกับคนรอบ ตัว

พร้อมทั้งในฐานะโค้ชนั้นผมขอพูดเลยว่าผมต้องการมีผู้เล่นแบบ ตอร์เรส อยู่ในฝ่าย เขา เดินทางมา อิตาลี ด้วยความกระตือรือร้นที่ยอดเยี่ยม เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่เหมาะสมเป็นนักเตะของ เอซี มิลาน เอรานิโอ ร่ายยาว
เพราะว่าภายหลังที่ร็อบบี ฟาวเลอร์ อดีตนักเตะคณะหงส์แดง ด้วยกัน เมืองทอง ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวยื่นใบสมัครงานเป็นกุนซือกรุ๊ปลีดส์ ยูไนเต็ด

ซึ่งร็อบบี ฟาวเลอร์ ที่เป็นอดีตกองหน้าระดับตำนานของ คณะหงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งเคย ทำหน้าที่โค้ชตารางบอลให้กับสโมสร พวกเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หนึ่งในหมู่ยักษ์ใหญ่ของศึกโตโยต้า ไทย พรีเมียร์ลีก ระหว่างปี 2011-2012

ได้ตกเป็นข่าวในการยื่นใบสมัครงานเป็นกุนซือ ทีมลีดส์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งสังกัดเก่าเวลาเจ้าตัวยังค้าแข้ง หลัง ทีมยูงทอง เพิ่งปลดเดฟ ฮ็อคคาเดย์ ออกจากตำแหน่งผู้ จัดการกรุ๊ป ทั้งที่ฝ่ายหลังเพิ่งควบคุมลีดส์ได้แค่ 6 นัดจากทุกรายการ

ทั้งนี้ฟาวเลอร์ ได้แจ้งเกิด พร้อมด้วยได้ลงเล่นให้ ทีมลิเวอร์พูลถึง 2 ช่วงเวลา

  1. 1993 - 2001 
  2. 2006 - 2007 


ซึ่งได้ลงเล่นไปทั้งหมด 369 นัดจากทุกรายการไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทำได้ 183 ประตู

ติดอันดับสูงสุดเป็นอันดับ 5 ตลอดในเรื่องราวศาสตร์ สโมสร นอกจากนี้ ยังเคยติดกลุ่มชาติอังกฤษ 26 ครั้ง ทำประตูได้ 7 ลูก